คุณวิกรม กรมดิษฐ์ เคยกล่าวเอาไว้ที่ช่อง 3 ในรายการ Big Mum แล้วคุณหม่ำถามในรายการว่า ขายอะไรดี ทำอะไรดี ช่วงนี้ ซึ่งคุณวิกรมตอบเอาไว้ดีมากเลยครับคือให้ดูตลาดก่อน ศึกษาตลาดให้ดีก่อน จุดสำคัญคือ หาสิ่งที่ต้องการของตลาดมาขาย และยังไม่มีคนทำ มาขาย (สนใจคลิปนี้ไปดูที่นี่นะครับ https://www.youtube.com/watch?v=QWtc943EZLY ) ซึ่งตรงนี้ ป๋าเทพแย้งเอาไว้ว่า มันหายากนะว่า อะไรคือสิ่งที่ตลาดต้องการ และยังไม่มีคนทำ ลองชมคลิปกันดูเอานะครับ
จากนั้นให้เราถามต่อเลยครับว่า สินค้าตัวนี้ มีการตลาดอย่างไรบ้าง ซึ่งคำถามนี้อาจจะดูกว้างไป ผมจะถามแบบนี้เลยครับว่า สินค้าตัวนี้ พี่โฆษณาผ่านช่องทางไหนบ้างครับ เช่น สื่อทีวี วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ป้ายแบนเนอร์ต่างๆ หรือเว็บไซต์ชื่อดังเป็นต้น ครับ
ถ้ามีเขาก็จะให้คำตอบเรา ถ้าไม่มีเราก็พอจะทราบได้บ้างแล้วล่ะครับว่า ขายของที่คนรู้จัก กับขายของที่คนไม่รู้จัก มันยากและเหนื่อยประมาณไหน ใช่มั้ยครับ ที่ผมเจอสินค้าจะเป็นประมาณนี้ครับ
1.สินค้า+ไม่มีคนรู้จัก = ทำการโปรโมท, ให้ทดลองใช้, แล้วค่อยขาย (ควรมีต้นทุนต่ำ+กำไรดี)
2.สินค้า+คนรู้จักดีแล้ว = ขายได้เลย (ต้นทุนสูง+กำไรน้อย)
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วล่ะครับว่า เลือกอันไหนที่จะพอขาย หรือเลือกสินค้าทั้งสองแบบ 50+50 แต่ถ้าใช้หลักการของคุณวิกรม จะเห็นว่า เป็นการสร้างสินค้า นวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา ไม่มีอยู่ใน 2 ข้อนี้ ซึ่งต้องเป็นผู้เชียวชาญในตลาดอย่างที่สุดเลยทีเดียวครับ
การหาสินค้ามาขายก็เหมือนเลือกคู่รักล่ะครับ ถ้าสินค้าดี มีการสนับสนุนดีจากผู้ผลิต ก็อาจขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ถ้าเลือกผิดก็สินค้าที่หาซื้อมาอาจกองท่วมหัวที่บ้านเลยทีเดียวครับ
คำตอบตามสไตล์ผมคือ ให้เริ่มสต้อคแต่น้อย เพื่อเช็คตลาดสำหรับสินค้าที่คนไม่รู้จัก
ส่วนสินค้าที่คนรู้จัก และขายดี ให้สต้อคเยอะเพื่อให้ได้ต้นทุนต่ำที่สุด แต่ทั้งนี้ ต้องบริหารสต้อคให้ดีนะและมั่นใจว่า เราขายได้ตามเวลาที่เรากำหนดแน่นอนครับ
ถ้ามีงบซื้อของจำกัดให้ทำแบบ พรีออเดอร์ เอารูป+ข้อมูล+ราคา มาลองขายผ่านหน้าเว็บดูก่อน ถ้ามีลูกค้าติดต่อมา ค่อยพัฒนาต่อยอดขึ้นไป ก็ยังไม่สายครับ
วันนี้ พอแค่นี้ก่อน ขอให้ทุกท่านจงโชคดี แล้วพบกันโพสต์หน้ากับผมมิสเตอร์สิงห์ครับ
ไม่มีความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น