วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2555

มาสร้างรายได้ทางเว็บกันดีกว่า

บทความดังต่อไปนี้ ผมได้ไปอ่านมาจากเว็บ http://www.sumpengavenue.com ซึ่งเป็นแหล่งรวมช้อปปิ้งซึ่งผมกลัวว่า ถ้าผมหาเว็บนี้ไม่เจอแล้วจะทำยังไงดี ไหนๆ ก็ชอบบทความของเขาแล้วก็ขอก๊อปปี้บทความมาลงไว้ก็แ้ล้วกัน เอาไว้อ่านในการสร้างสรรค์ไอเดียครับ



ถ้าเพลงอมตะคือเพลงที่เปิดได้ทุกปีฟังได้ทุกคน วิธีการสร้างรายได้บนเว็บไซต์ที่จะนำเสนอในบทความต่อไปนี้ก็ล้วนเป็นวิธีการอมตะที่ทุกเว็บไซต์จะสามารถทำได้ทุกปีไม่มีเว้นเช่นกัน สำหรับปี 2555 ที่จะถึงนี้ หากใครที่เป็นเจ้าของเว็บไซต์แล้วยังไม่ได้ลงมือดำเนินการตามวิธีอมตะเหล่านี้ ก็ขอให้ปี 2555 เป็นนิมิตหมายอันดีที่คุณจะได้ลองเพื่อจะได้มีกำลังใจสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในวงการเว็บไทยยิ่งกว่าเดิม
      
       ***4 วิธีสร้างรายได้จากเว็บไทย เพื่อคนไทย
       บทความโดย @goople (www.goople-adsense.com)
      
       หลายคนยังสงสัยว่า เว็บไซต์บนโลกมีเป็นพันเป็นหมื่นแล้ว เราควรจะมีเว็บไซต์เป็นของตนเองไหม? แล้วถ้ามี จะสร้างรายได้จากเว็บไซต์ที่ทำได้อย่างไร วันนี้เราจัดการรวบรวมวิธีการสร้างรายได้จากเว็บที่ทำเนื้อหาเป็นภาษาไทย ขอเชิญทุกคนตามเก็บ ตามอ่าน ที่สำคัญ ทำเลย!! ^_^
      
       1. สร้างรายได้จากการติดโฆษณา
      
       การติดป้ายโฆษณาภายในเว็บไซต์ ยังเป็นช่องทางการทำเงินที่ดีและสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับผู้พัฒนาเว็บไซต์อยู่เสมอ แต่คำว่าติดโฆษณาบนเว็บไซต์ในวันนี้มีความหมายมากกว่าเดิม
      
       โฆษณาอย่างแรกที่เรารู้จักกันดีคือการติด banner โฆษณา บอกได้เลยว่าโฆษณารูปแบบนี้ยังคงเป็นหัวใจในการสร้างรายได้ให้ผู้ที่ทำเว็บตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน บางคนอาจจะมองว่าเชยมากที่จะมาบอกเรื่องการสร้างรายใด้ด้วยวิธีนี้ แต่นี่คือรายได้หลักคนทำเว็บจริงๆ!!
      
       ดูได้จากเว็บใหญ่ๆ อย่าง sanook, kapook และ dek-d รู้ไหมว่ารายได้จากการรับวาง banner เดือนละเป็นหลักล้าน!! แต่การจะมีคนยอมจ่ายเงินค่าติด banner ได้ เราก็ต้องมีเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่โดนใจกับผู้เข้าเยี่ยมชม เมื่อมีผู้ชมเว็บมาก รายได้จากการติด banner ก็จะตามมาเอง ซึ่งแน่นอนว่า การที่จะทำให้เว็บไซต์ของเราโด่งดังได้ขนาดนั้น เราต้องมีการคิดอะไรที่แตกต่างแต่โดนใจกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายอย่างชัดเจนซึ่งแน่นอนว่า ยากส์.. แต่ลองคิดและลองทำดูนะคะ บางทีอาจจะมีโอกาสเล็กๆ ซ่อนอยู่ในหัวเราก็ได้ค่ะ
      
       มาดูการสร้างรายได้จากการติดโฆษณาอันต่อมา สำหรับเว็บเล็กๆ เกิดใหม่ คนเข้าน้อยจะเอา banner ที่ไหนมาติด ไม่เป็นไรคะ เรามีทางเลือกที่ 2 คือ การติด google adsense ซึ่งเป็นการหารายได้จากให้เช่าพื้นที่โฆษณาบนเว็บไซต์ของเรา ผ่านระบบของ google ซึ่งมันก็เหมือนกับการติดโฆษณาแบบ banner นั่นเอง แต่ต่างกันตรงที่ เราไม่ต้องหาคนมาลง banner กับเรา แค่ติด code จาก google adsense มันก็จะไปหาโฆษณามาติดให้ที่เว็บเราเองโดยอัตโนมัติ
      
       เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทราบกันดีในหมู่ webmaster รุ่นใหม่ๆ กันแล้วที่จะหันมาทำเว็บแล้วสร้างรายได้ให้เว็บมีชีวิตรอดต่อไป แม้การทำ google adsense นั้น รายได้อาจไม่สวยงามเท่าการรับติด banner แบบปกติในเว็บใหญ่ๆ แต่ก็สามารถหล่อเลี้ยงให้เว็บอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม มีจำนวนไม่น้อยที่สามารถทำรายได้บน adsense จากเว็บเล็กๆ รวมๆกันให้กลายเป็นรายได้ก้อนใหญ่ได้เช่นเดียวกัน เราจึงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงในการสร้างรายได้จาก google adsense
      
       แบบที่ 3 คือการติดป้ายโฆษณาน้องใหม่ที่เพิ่งเกิดในวงการเว็บเมืองไทยเลยก็คือ nuffnang ซึ่งมีชื่อเสียงในการสร้างรายได้ให้กับคนทำเว็บเมืองนอกมานักต่อนักแล้ว
      
       nuffnang ได้เข้ามาเปิดตัวในไทยแล้วขณะนี้ ด้วยหลักการง่ายๆคือ nuffnang จะหา Banner มาลงโฆษณาให้กับ blog หรือเว็บไซต์ของเราเอง เพียงแค่สมัครเท่านั้น ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากในขณะนี้
      
       2. สร้างรายได้จากการเป็นตัวแทนขายสินค้า (Affiliate marketing)
      
       สำหรับคนที่มองหารายได้จากการทำงานออนไลน์นั้น เรื่อง Affiliate Marketing ถือเป็นเรื่องการหารายได้ที่ร้อนแรงมากที่สุด เพราะสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำใน Black Friday , Cyber Monday , Chirstmas และ ปีใหม่ ในทุกๆ ปีที่ผ่านมา
      
       การทำ affiliate นั้นก็คือการเป็นตัวแทนขายสินค้าให้กับเจ้าของสินค้า แล้วเมื่อขายสินค้าได้ เราก็จะได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายสินค้านั้นๆ นั่นเอง ซึ่งในช่วงเทศกาล Black Friday นั้น เป็นการลดราคาสินค้าในอเมริกา แต่ในประเทศไทยนั้น ตอนนี้เราก็สามารถเปิดให้ทำ affiliate ขายสินค้าในประเทศไทยได้แล้ว คือ Trendyday.com โดยทาง Trendyday นั้น เป็นเว็บในเครือของบริษัท Officemate ซึ่งเป็นเว็บที่ขายอุปกรณ์สำนักงานรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อีกทั้งยังมีระบบการจ่ายเงิน และการจัดส่งสินค้าเป็นจุดแข็งอยู่แล้ว จึงสามารถทำให้ผู้ที่ต้องการจะสร้างรายได้จากการเป็นตัวแทนสินค้า หรือ affiliate ในประเทศไทยสามารถทำเงินได้ไม่ยาก
      
       ขอยืนยันว่าเจ้าของเว็บไทยไม่ควรพลาดในการสร้างรายได้จากการเป็น Affiliate จาก Trendyday เพราะตอนนี้ในประเทศไทย Trendyday เป็นบริษัทฯ เดียวที่ให้เรา Affiliate ได้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมมีเครื่องมือในการทำงานอย่างเพียบพร้อมในการสร้างรายได้กันเลยทีเดียว
      
       3. สร้างรายได้จาก web content หรือ blog
      
       การหารายได้จาก web content หรือ การได้เป็น blogger ผู้โด่งดังนั้น คือ การที่เราเขียนเนื้อหาโดนๆ และเป็นเรื่องราวที่มีคนสนใจในช่วงเวลานั้นๆ มีคนเข้าเว็บไซต์มากมาย รายได้ของเราก็จะมาจากการที่ brand ต่างๆ พากันมาให้เราเขียน blog หรือ review สินค้า หรือให้ช่วยเขียนเชียร์สินค้าของเขา กันอย่างมากมาย รวมไปถึงการได้สินค้ามาใช้ฟรีๆ ก่อนคนอื่นอีกด้วย
      
       ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเลยก็คือเว็บ Jeban ที่เครื่องสำอางหลาย brand ต้องลงโฆษณากับ Jeban หรือส่งสินค้าไปให้ทางเว็บแจกและ review กันเลยทีเดียว เพราะเป็นกลุ่มเป้าหมายลูกค้าผู้หญิงที่รักสวย รักงามอย่างชัดเจน ซึ่งเราเองก็สามารถสร้างรายได้จากเขียน web content ดีๆ ให้มีผู้อ่านมากๆ ได้เช่นกัน
      
       4. สร้างรายได้จากการขอทุน
      
       แต่หากเรามีไอเดียดีๆ และช่วยเหลือสังคมได้ แต่ดูแล้วเป็นเรื่องยากมากที่จะสร้างรายได้จากการติด โฆษณา หรือทางหาเงินอื่นๆ ก็มีอีกวิธีคือ การทำ proposal ขอทุนสนับสนุนเว็บของเรา จากกระทรวง ทบวง กรม กองต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งทางราชการนั้น จะมีงบประมาณในการทำทุกอย่างเพื่อสังคมอยู่แล้ว แต่ต้องเขียนให้เป็น และทำเว็บที่ดีเพื่อสังคมจริงๆ ก็จะสามารถหาเงินได้
      
       ไม่เพียงแต่ราชการเท่านั้น ตอนนี้หลายๆ บริษัทก็หัดมาทำ CSR กันอย่างมากมาย ถ้าใครมี project หรือไอเดียดีๆ ที่สามารถช่วยเหลือสังคมได้ ก็ส่ง proposal ไปขอกับบริษัทต่างๆ เหล่านี้ได้ แล้วเริ่มโครงการได้ทันที…
      
       นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการสร้างรายได้จากเว็บไทย เพื่อคนไทยเท่านั้น แต่ทั้งนี้ยังมีวิธีการอื่นๆ ในการสร้างรายได้จากออนไลน์อีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงในบทความนี้ เช่น share file แล้วได้เงิน (บทความตอนที่แล้ว), หรือ การ share รูปภาพสร้างรายได้… และมีอีกสารพัดวิธีที่ทำได้ นอกเหนือจากการสร้างรายได้จากธุรกิจ E-commerce ที่เราเห็นกันในปัจจุบัน
      
       ดั้งนั้น ลองหาวิธีการสร้างรายได้ในแบบของเราดูนะคะ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องเลือกแบบใด แบบหนึ่ง แต่เราสามารถทำได้ทุกแบบที่เราต้องการได้ทั้งหมดค่ะ

ขอข้อบคุณข้อมูลจาก : http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9540000166805

วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555

มาสร้างไอเดียกับ photofunia ดีกว่า

บางครั้ง การทำงานที่ยุ่งมากๆ อาจจะทำให้ไอเดียเราตันได้เหมือนกัน บางทีเปลี่ยนไปสร้างสรรค์ภาพด้วยไอเดียดีๆ จากเว็บไซต์ก็อาจทำให้เราได้แนวคิดดีๆ เหมือนกัน ลองไปเล่นเลยดีกว่าตามนี้เลยครับ

นี่เป็นเว็บไซต์ www.photofunia.com   จะเห็นว่ามีรูปแบบของภาพให้เลือกเล่นได้มากมาย เราสามารถสร้างไอเดียภาพได้จากโปรแกรมที่สามารถอัพโหลดภาพขึ้นไปบนเว็บของ photofunia เพื่อไปเอารูปแบบมาใส่ไว้ในภาพของเราได้เลยครับ


ดังภาพตัวอย่างนี้ ผมได้ลองเลือกแบบเป็นนิตยสารหนังสือ

ผลลัพธ์ก็จะได้ดังนี้เลยครับ 


ภาพตรงๆ ไม่มีอะไร แต่สามารถใส่ไอเดียได้ ดูแล้วน่าสนใจไปอีกแบบครับ ยังไงถ้าสนใจ ลองเข้าไปเล่นดูที่เว็บไซต์ http://www.photofunia.com

วันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2555

ภาพ Notebook Lenovo ThinkPad Edge




ปกติแล้ว นักถ่ายภาพจะต้องเอาภาพสวยๆ เกี่ยวกับ ภาพวิวทิวทัศน์ ภาพนางแบบ ภาพสัตว์ป่ามาโพสกัน แต่ผมไม่มีภาพเหล่านั้นในสต็อกเลยครับ วันนี้เลยมาขอโพสต์บ้างเป็นภาพเกี่ยวกับสินค้าทางไอที เผื่อมีคนสนใจอยากเก็บไว้ประกอบการโฆษณา ขนาดภาพเป็น 1000 x 1000 พิกเซล ถ้าตรงการก็คลิกที่ภาพ จากนั้น คลิกขวา save as image ได้เลยนะครับ หรือจะไปดูภาพถ่ายจากเว็บผู้ผลิตก็ได้ครับที่ www.lenovo.com

วันอังคารที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2555

มาเรียนรู้เรื่องค่า รูรับสูง+สปีดชัตเตอร์+ISO กันดีกว่า

ในอินเทอร์เน็ตมีเทคนิคมากมายกับการถ่ายภาพ เมื่อมีคนทำไว้ดีอยู่แล้ว ผมขออนุญาตินำมาเผยแพร่ต่อเลยก็แล้วกัน เพราะเผยแพร่ออนไลน์ไว้อยู่แล้ว สนใจยังไงตามไปดูตามคลิปด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ


เพื่อความเข้าใจแบบง่ายๆ  ค่ารูรับแสงคือ ค่า F เช่น F 5.6  F9.0  F11  ถ้าตัวเลขน้อยแสงจะเข้าเยอะ ทำให้ฉากหลังเบลอๆ หรือเรียกว่า ชัดตื้น ถ้าตัวเลขมาก ภาพจะคมชัด หรือชัดลึก แต่แสงจะเข้าได้น้อย ถ้าปรับให้สัมพันธ์ไม่ดี ภาพอาจจะมืดมากๆ ได้ครับ

ค่าสปีดชัตเตอร์ หรือ Speed Shutter ค่าความไวในการเปิดรับภาพ เช่น 1/15, 1/60, 1/1000 เป็นต้น ตัวเลขน้อยสำหรับถ่ายภาพนิ่งๆ ตัวเลขมากสำหรับถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหว  ถ่ายบ่อยๆ ก็จะจับความสัมพันธ์ได้ครับ

ค่า ISO คือค่าความไวในการรับแสง เช่น ค่า ISO 100, ISO 400, ISO 800 ค่าน้อยรับแสงได้น้อย ถ้าถ่ายภาพในที่มืด ไม่มีไฟ มีแฟลชช่วยก็คือมืดเลยครับ วิธีแก้ก็ปรับค่านี้แหละครับให้สูงๆ ภาพจะสว่าง แต่ข้อเสียจะมีตรงที่ภาพไม่คม เพราะมีเม็ดสีขาวในภาพเยอะนั่นเองครับ

เมื่อทราบลักษณะความสัมพันธ์ทั้ง 3 ค่านี้แล้วก็ไปทดลองถ่ายไปเรื่อยๆ จดบันทึกด้วยนะครับ จะทำให้เข้าใจได้เร็วและเปลี่ยนแบบในการถ่ายด้วย เช่น ถ่ายภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาพในที่มืด ในที่สว่าง ถ่ายทุกอย่างที่ขวางหน้า ขวางทาง อะไรประมาณนั้นเพื่อการฝึกฝน แล้วฝีมือการถ่ายภาพก็จะเป็นไปดังใจเราต้องการเองครับ

วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

ภาพสวยๆ จาก OJPHOTO

วันไหนที่ผมมีงานเข้า หรือว่า ยังไม่มีไอเดียในการเขียนบทความ ผมจะไม่ค่อยบังคับตัวเองให้พยายามเขียนเพราะว่า ถึงเขียนออกมามันก็ไม่ดี ไอเดียมันตัน และที่สำคัญผมไม่มีความสุขในการเขียนถือว่า ขาดทุนตั้งแต่เริ่มต้น ขาดทุนทางความสุขในการเขียนนะครับ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะว่า ยังไม่ข้อมูลตามเว็บไซต์ที่คนอื่นมีความสามารถแบ่งปันกันไว้อยู่เยอะ ผมเลยไปหามาโพสต์ต่อเอาไว้ดูเวลาต้องทำงานที่ใกล้ๆ กันว่าเราต้องเพิ่มเติมต้องไหน และใส่รายละเอียดในจุดไหนบ้าง มาดูภาพสวยๆ กันเลยครับ















สนใจภาพถ่ายสวยๆ เข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ http://www.ojphoto.co.nr

วันศุกร์ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2555

แต่งถ่ายรูปติดบัตร (ต่อจากบทที่แล้ว)

หลังจากที่เราได้ถ่ายรูปเสร็จแล้ว การที่จะเอารูปไปปรินที่เรื่อง Inkjet ธรรมดาก็พอได้อยู่ครับ แต่ต้องใช้กระดาษดีๆ เป็นกระดาษ Photo โดยเฉพาะและเครื่องปรินเตอร์เองก็ต้องเป็นหมึกแท้คุณภาพสูงด้วยนะครับ มิฉะนั้นและงานที่ออกมาอาจจะไม่ได้ดังใจ แต่ก็สะดวกดีครับ ส่วนผมใช้วิธีไปอัดรูปที่ร้านดีกว่า เพราะเป็นการใช้เครื่องที่ร้านอัดรูปจริงๆ คุณภาพได้ตามที่ต้องการเหมือนอัดรูปทั่วไป แต่มีเทคนิคนิดหน่อยโดยใช้โปรแกรม Photoshop มาช่วยดังนี้เลยครับ

1. หลังจากเปิดโปรแกรม Photoshop มาแล้ว และเอาภาพถ่ายที่ต้องการมาวางแล้ว เราอยากได้ ขนาดรูปเท่าไรก็กำหนดได้เลยโดยใช้เครื่องมือ Crop และกำหนดช่อง width: || Height: ได้เลยครับ ในที่นี่ผมกำหนดไว้ที่ 3x4 cm ครับหรือ ขนาดภาพ 1 นิ้วนั่นเอง


2. อันนี้ขั้นตอน การ Crop ภาพนะครับ



3. จากนั้นจับภาพวางเข้ามุม เพื่อทำการ Copy เป็นหลายๆ ภาพ


4. อย่าลืมนะครับ ว่า เราต้องกำหนดขนาดกระดาษ เป็นแบบ 4x6 หรือภาษาร้านอัดรูปเรียกว่า ขนาดจัมโบ้นั่นเองครับ เพราะเอาจะเอาไฟล์นี้ไปอัดรูปที่ร้านไงครับ


5. ส่วนอันนี้ไว้เสร็จแล้ว ก็เตรียมเงิน 3 บาทไปอัดรูปได้เลยครับ แต่ผมแนะนำว่า ควรอัดสัก 5 แผ่นขึ้นไป เพราะ อัดแผ่นเดียว ดูจะงกเกินไปนะครับ แค่นี้เราก็ได้รูปติดบัตรไปใช้งาน และมีคุณภาพด้วย

วันนี้ขอลาไปทำงานก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ ขอให้มีความสุขกับงานถ่ายภาพ แต่งภาพครับ

วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2555

ถ่ายรูปติดบัตร

ปกติผมไม่ค่อยได้ถ่ายรูปติดบัตร นั่นเป็นเพราะว่า ทุกวันนี้ การถ่ายรูปติดบัตรทุกคนสามารถทำได้เองซึ่งแตกต่างจากเมื่อก่อนที่จะมีกล้องดิจิตอลใช้กันอย่างแพร่หลายอย่างในปัจจุบันนี้ ทุกวันนี้เราสามารถถ่ายภาพหน้าตรงจากมือถือ และไปอัดรูปขนาด 4x6 แบบ 4p, 8p, 12p ได้จากนั้นมาตัดเอาก็สามารถใชัสมัครงานได้แล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อน ต้องไปร้านถ่ายรูปและได้แ่ค่ 1 โหลเท่านั้นครับ ราคาก็ 120 บาทหรือถึง 180 บาท ก็มี แล้วแต่ว่าร้านไหนจะมีคุณภาพอย่างไร

วันนี้ก็เช่นกัน ผมได้มีโอกาสมาถ่ายรูปติดบัตรให้พนักงานด้วยกันเพื่อไปขอทำ VISA เลยต้องเอาความรู้เก่าจากสมัยที่ทำงานอยู่ร้านอัดรูปมาใช้งาน มาดูกันเลยดีกว่าครับ ผมได้จัดไฟและจัดองค์ประกอบดังนี้



1. ตำแหน่งกล้องถ่ายรูป อันนี้ผมตั้งห่างจากตัวแบบที่ถ่ายประมาณ 3 เมตรครึ่งครับ
2. ตัวแบบ และที่นั่งเป็นเก้าอี้ หรือโต๊ะนั่ง ลังอะไรก็ได้ครับที่นั่งได้ตรง
3. ไฟ Soft box เพื่อยิงแสงจากด้านซ้ายของตัวแบบมุม 45 องศาครับ
4. แผ่นสะท้อนแสง หรือโฟมก็ได้ เพื่อสะท้อนแสงจาก Soft Box ทางด้านขวา
5. ไฟด้านหลังตัดเงาตัวแบบจะได้เพิ่มมิติของภาพครับ


กล้องที่ผมใช้ถ่ายเป็น Canon 60D นะครับ ส่วนเลน์เป็น Canon 18-200 mm ส่วนภาพด่านล่างนี้เป็นไฟที่ผมใช้ครับ ยี้ห้อ EXCELLA

ไฟ Soft Box ด้านหน้า

ไฟ Black Light ด้านหลังตัวแบบครับ

หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปตามสบายเลยครับดังภาพด้านล่างที่ผมได้ถ่ายครับ อันนี้ฉากหลัง ผมเป็นปูนซีเมนต์ทาสีขาว ภาพบางภาพ สีอาจจะอมไปทางเหลืองบ้างนะครับ แต่ก็ไม่ได้ปรับแต่งอะไรมากแค่ คร๊อบภาพ ปรับแสงนิดหน่อย ไม่ต้องแต่งหน้า ก็ใช้ได้แล้วเป็นธรรมชาติดีครับ ผมใช้ค่าธรรมดาๆ ที่ F5.6 1/60 ISO 100 ส่วนไฟ Soft Box ผมปรับไว้ที่ 1/2 ครับ








ส่วนการถ่ายรูปผมมีเทคนิคนิดหน่อยคือ

1. ต้องบอกแบบให้ปรับหน้าให้ตรง หูไม่หาย คอไม่เอียง (ถ้าบอกไม่ไหวก็อาจจะต้องปล่อยบ้างครับ เพราะไม่ไหวจริงๆ )
2. เส้นผมต้องไม่ตกมาบังหน้าจนเกินไป
3. การทำหน้าตาอาจมียิ้มบ้างนิดหน่อย
4. ถ้าใส่เสื้อมีปกคอต้องดูให้เรียบร้อย ไม่ใช่พับไปใครล่ะทาง

อะไรประมาณนี้แหละครับ ส่วนที่เหลือผู้อ่านไปปรับใช้เอาเองก็แล้วกัน โพสต์หน้ามาดูิวิธีทำรูปติดบัตรในโปรแกรม Photoshop หลังถ่ายเสร็จกันแล้วนะครับ

วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555

ภาพสวยๆ ฝีมือคนไทยโดย อนันต์ เจริญกุล

พอดีวันนี้ผมลองค้นหาตัวอย่างการถ่ายภาพโฆษณาเพื่อมาประกอบงานเกี่ยวกับสงกานต์ เลยมาเจอเว็บถ่ายภาพฝีมือคนไทยดังนี้ครับ

I am Anan Charoenkal. I am Thai Photographer. I just learn to shoot for about 2 years. My first gear is Canon 450D with len kit. Now I own Nikon D700 with 4-5 lens. My interest is to capture the beautiful places and lifestyle of people. My dream is to travel around the world and take the photos to keep in my portfolio.

สนใจภาพถ่ายของคุณอนันต์ ก็สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.tonnaja.com








และในช่วงอาทิตย์นี้ ผมมีงานเข้ามาเยอะ เช่นงานให้ถ่ายทำโฆษณาวันนี้เลยต้องรีบๆ อัพล่วงหน้าไว้ก่อน เพราะบางทีเราใช้เว็บ Google ค้นหาทิปการถ่ายภาพสวยๆ แต่จำไม่ได้ผมก็อาศัยมาโพสต์ไว้ที่บล็อคตัวเองนี่แหละครับ เผื่อคอมเสียที่เซฟเก็บไว้ก็หาย ยังไงก็ยังมีไว้อีกที่คือ บล็อคของตัวเอง ว่ากันว่า ใช้เทคโนโลยีของฟรีดีๆ ให้คุ้มค่าหน่อยก็แล้วกันครับ

วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555

วิธีง่ายๆ ใส่รายละเอียดในภาพ ภาค 2

มาต่อกันจากโพสต์ที่แล้วนะครับ วิธีนี้เป็นวิธีง่ายๆ เพียงแค่คลิกขวาที่รูปภาพที่เราต้องการใส่รายละเอียดลงไปในภาพตามรูปด้านล่างเลยครับ คลิก properties


จากนั้นจะมีหน้าต่างขึ้นมาให้เราคลิกเลือกที่ Tab Summary ครับตามรูปด้านล่างที่แสดงเลยครับ

หลังจากนั้นก็สามารถใส่รายละเอียดได้เลยครับตามลำดับดังนี้
1.ช่องใส่ Title
2.ช่องใส่ Subject หรือหัวข้อ
3.ช่องใส่ Author หรือผู้ถ่ายภาพ
4. ช่องใส่ keywords ในการค้นหา
5. ช่องใส่ Comment อะไรก็ได้ที่อยากจะแนะนำครับ
6. ช่องนี้ สำหรับใส่ข้อมูลภาพอย่างละเอียด
7. คลิก OK เพื่อบันทึกข้อมูลที่เรากรอกลงไปใสภาพครับ

ส่วนภาพด้านล่างนี้ เป็นผลการทดสอบที่ค้นหาดูด้วยโปรแกรม Search ในวินโดว์ครับ

จากนั้นลองกรอกรายละเอียดในช่อง Search for files or Folders name อาจจะหาไม่เจอนะครับ เพราะเป็นแค่ชื่อไฟล์กับโฟลเดอร์เท่านั้น

แต่ถ้าลองมาเปลี่ยนการค้นหาจาก Containing Text จะเจอถ้าคำที่เราค้นไปตรงกับคำที่ระบุไว้ในรายละเอียดของภาพ อันนี้ผมค้นด้วยคำว่า Pavilon ซึ่งเป็นชื่อรุ่นของโน๊ตบุ้ค ทำให้เจอภาพเลยครับ แม้ว่า จะมีชื่อไฟล์ที่เรา save ไว้ต่างกันลองสังเกตดูที่ภาพด้านล่างครับ


ลองทำดูครับ ภาพมันเก็บรายละเอียดได้มากกว่าแค่ save เป็นชื่อในภาพธรรมดาๆ จริงๆ และเป็นประโยชน์ในการค้นหาด้วย และบันทึกข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม

Recent News