วันนี้มีข้อความส่งตรงมาให้ผมอ่านถึงบ้าน จากอาจารย์กมลเวช เมืองศรี
ต้องขอขอบคุณท่านมากๆ ครับ
ท่านเป็นกัลยาณมิตรที่ดีในโลกออนไลน์ของผมตลอดกาล
ผมเลยนำมาโพสต์ให้ท่านผู้อ่านดังนี้นะครับ
6 สุดยอดข้ออ้างที่จะทำให้ห่างไกลจากความสำเร็จ
1. ไม่มีเงิน
ไม่มีเงิน ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่เป็นประโยคบอกเล่า
#คนไม่สำเร็จชอบใช้ประโยคบอกเล่า เล่าเหตุผลถึงสาเหตุแห่งความไม่สำเร็จ
และเขาไม่มีค้นหาสาเหตุที่เขาไม่สำเร็จพบได้ #คนสำเร็จชอบถามคำถาม
เราจึงควรจะถามตัวด้วยความถามเช่น “เราจะหาเงินจากช่องทางไหนได้บ้าง?”
คิดๆๆๆ แล้วจะได้คำตอบ มีพลังและสร้างสรรค์กว่า
บอกเล่าเหตุผลความไม่เอาไหนของเราให้คนเขารู้
2. ไม่มีเวลา
ไม่มีใครสนใจหรอกว่าคุณจะใช้เวลาไปกับเรื่องอะไร
คนอื่นมองแค่ผลลัพธ์ของคุณเท่านั้น ถ้าคุณบริหารเวลาได้ไม่ดีพอ
ผลลัพธ์ชีวิตของคุณมันก็ตอบด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว
3. ทำไม่เป็น
ทุกคนมีครั้งแรกด้วยกันทั้งนั้น ทำไม่เป็น ไม่ได้แปลว่า ทำไม่ได้
ถ้าอยากเห็นความสามารถของตัวเองอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ก็ลองตั้งคำถามดูครับว่า “ต้องทำยังไง?”
4. ไม่ได้เรียนมาทางนี้
ความรู้ ไม่ได้สิ้นสุดแค่ในรั้วมหาลัย ใบปริญญาไม่ได้การันตีอนาคต
ถ้าคุณเลือกที่จะหยุดเรียน ก็ห้ามบ่นถึงเรื่องความก้าวหน้า
เพราะมันจะไม่มีวันเกิดขึ้น
5. ยังไม่พร้อม
คำนี้มองได้สองมุม ทั้งนี้ต้องดูวิสัยทัศน์ของคนพูดด้วย ว่าเขา
“ขี้เกียจทำ” หรือกำลัง “รอจังหวะ” วิธีสังเกตุง่ายๆคือ
ให้ดูการเตรียมพร้อมของคนๆนั้น
6. ไม่มีอะไรใหม่ๆให้ทำแล้ว
คนที่พูดประโยคนี้คงมองไม่เห็นโอกาสที่เหลืออยู่ เพราะคิดว่าอะไรใหม่ๆ
ก็มีคนทำไปหมดแล้ว จะให้ตนเองคิดนวัตกรรมก็คิดไม่ออก แต่คำว่าใหม่ๆ
ไม่ได้หมายถึงการสร้างสิ่งใหม่ที่ยังไม่เคยมีในโลกนี้มาก่อน ที่จริง
ใหม่หมายรวมถึงการพัฒนาของสิ่งเดิมให้ดีขึ้นด้วย
ไม่มีเศรษฐีคนไหนร่ำรวยจากการ”ประหยัดรายจ่าย”
แต่เค้ารวยจากการ” สร้างรายได้”
ไม่มีเศรษฐีคนไหนร่ำรวยจากการ”ทำงานง่าย”
แต่เค้ารวยจากการ” ทำงานยาก”
ไม่มีเศรษฐีคนไหนร่ำรวยจากการ”ทำงานหนัก”
แต่เค้ารวยจากการ” ทำงานฉลาด”
ไม่มีเศรษฐีคนไหนร่ำรวยจากการ”คิดเยอะ”
แต่เค้ารวยจากการ” คิดเป็น”
ไม่มีเศรษฐีคนไหนร่ำรวยจากการ”ขายแรงงาน”
แต่เค้ารวยจากการ” ขายไอเดีย”
ไม่มีเศรษฐีคนไหนร่ำรวยจากการ”ปฏิเสธโอกาส”
แต่เค้ารวยจากการ” มองหาโอกาสทุกเวลาจะทำให้คุณล้าหลังจากความสำเร็จ”
ความสำเร็จรอเราอยู่ที่จุดหมาย
ขอเพียงเลิกใช้ข้ออ้างทั้งหลายมาหยุดยั้งการเริ่มต้นของเรา
และกล้าที่จะย่างเท้าออกไปทีละก้าว ทีละก้าว แล้วเดินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
เราก็จะถึงเส้นชัยอย่างแน่นอน
เครดิต: อาจารย์กมลเวช เมืองศรี
**************************************************************************
ผู้ที่จะร่ำรวยเป็นเศรษฐีนั้นต้องมี คาถาหัวใจเศรษฐี 4 อย่าง นั่นคือ อุ
อา กะ สะ ผมเห็นพ่อค้าแม่ค้าทั้งหลายพากันบูชา
และท่องบ่นสวดภาวนาเป็นประจำ
มีน้อยนักที่พ่อค้าแม่ค้าจะไม่สวดภาวนาพระคาถานี้ ซึ่งมีความหมายดังนี้
- อุ คือ ขยันหา มาจากคำว่า อุฏฐานสัมปทา
- อา คือ รักษาให้ดี มาจากคำว่า อารักขสัมปทา
- กะ คือ มีเพื่อนดีเคยชี้แนะ มาจากคำว่า กัลยาณมิตตตา
- สะ คือ ใช้ชีวิตให้เหมาะสมตามฐานะ ไม่ฟุ่มเฟือย มาจากคำว่า สมชีวิตา
ถ้าข้ออื่นๆ ยังมีน้อยหรือไม่ค่อยมี ข้อว่า กัลยาณมิตตตา
ควรทำให้มีมากยิ่งขึ้น เพราะมีความพิเศษตรงที่จะทำให้ข้ออื่นๆ
ตามมาโดยอัตโนมัติครับ ไม่ว่า จะเป็นลูกค้า, ซัพพลายเออร์,
ผู้หลักผู้ใหญ่ที่ให้การสนับสนุน, ญาติสนิทมิตรสหาย เป็นต้น เพราะถ้ามีข้อ 3
นี้บริบูรณ์เจริญยิ่งขึ้นแล้ว ข้ออื่นๆ จะค่อยๆ ดีขึ้น และมีมาเองครับ
ผมเชื่อว่า ทุกๆ ท่านมีกัลยาณมิตรอยู่แล้ว
แต่อย่าลืมที่จะรักษาท่านเหล่านั้นเอาไว้ และหาเพิ่มเติมให้มากยิ่งๆ ขึ้น
การมีกัยาณมิตรมาก ความโชคดีก็มีมามากเช่นกันครับ